เราหมายถึงอะไรโดยสุขภาพจิต ?
ความหมายของคำว่า สุขภาพจิต นั้นรวมถึง ความสุขทางอารมณ์ , จิตใจ และสังคมของเราที่เป็นอยู่ทั้งหมดมันส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิดไปจนถึงการกระทำของเราได้ การที่คนเรามีสุขภาพจิตดี จะช่วยให้พวกเขาสามารถตระหนักถึงศักยภาพสูงสุดของตนเอง พร้อมกับรับมือแรงกดดันในการใช้ชีวิตได้อย่างดีเช่นเดียวกัน นอกเหนือจากนั้นยังส่งผลในด้านของการทำงาน ทำให้มีประสิทธิภาพ มีความสัมพันธ์ที่ดีในเชิงบวก และตัดสินใจเลือกที่ดี
เป็นเรื่องง่ายหากคุณจะสับสนภาษาที่ใช้ เพราะบ้างครั้งเรามักจะได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต ความสุขทางจิต ความทุกข์ทางจิต ด้วยคำศัพท์ต่าง ๆ นานาที่ไหลเข้ามาในหัวของเรา จนแทบจะแยกไม่ออกเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นแล้วจุดสำคัญคือคุณต้องเข้าใจที่สิ่งที่เรากำลังพูดถึงอย่างแท้จริง เพื่อให้สามารถสนับสนุนความเข้าใจได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
ที่ We Mind & Kelly Matters เราชอบคำอธิบายชุดนี้ของ Dr.Stan Kutcher จาก Teen Mental Health มาก ๆ มันเป็นตัวช่วยอธิบายระดับต่าง ๆ ของการไม่มีความทุกข์ ความทุกข์ทางจิต ปัญหาสุขภาพจิต และความผิดปกติ ความเจ็บป่วยทางจิต ซึ่งทั้งหมดสามารถดูได้จากพีระมิดสุขภาพจิตดังนี้
5 วิธีสู่ความเป็นอยู่ที่ดี
ในปี 2008 มูลนิธิ New Economics Foundation รวบรวมหลักฐานงานวิจัยมากกว่า 400 ฉบับ เพื่อช่วยกันคิดค้น 5 วิธีสู่ความเป็นอยู่ที่ดี โดยระบุการกระทำทั้งหมด 5 ข้อ ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางสังคม มีทั้งกิจกรรมทางการ การรับรู้ การเรียนรู้และการให้
การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดนี้ แสดงให้เราเห็นว่าหากทำทั้งหมด 5 สิ่งที่เราแนะนำ ระดับคงวามสุขของเราจะเพิ่มขึ้น
- การเชื่อมความสัมพันธ์อันดี
- การมีความกระตือรือร้น
- การรับรู้เรื่องราว
- หมั่นเรียนรู้
- การให้และช่วยเหลือผู้อื่น
แล้วต้องเริ่มต้นอย่างไรดี? ลองอ่านคำพูดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการตัดสินใจจาก อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กันสักหน่อย “คำจำกัดความของความวิกลจริต คือการทำสิ่งเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ดันไปคาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง” ดังนั้นเริ่มทำมันเลย เพียงวันละนาทีก็โอเคแล้ว
-
การเชื่อมความสัมพันธ์อันดี
ไม่ว่าจะกับคนรอบข้าง ครอบครัว เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน ไปจนถึงเพื่อนบ้าน ผู้คนเหล่านี้ล้วนเป็นรากฐานที่แสนสำคัญในชีวิตของคุณ และการใช้เวลาเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์เหล่านั้ จะช่วยให้คุณมีแรงสนับสนุน พร้อมกับการสร้างเสริมจิตใจที่มีความสุขให้ในทุก ๆ วันจากทุกคนที่คุณเชื่อมสัมพันธ์อันดีด้วย อาจเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการใช้เวลาเพียง 1 นาทีต่อวัน เช่น
- เพื่อนทุกคนเริ่มต้นจากการเป็น ‘คนที่คุณไม่รู้จัก’ เริ่มการสนทนาด้วยแชทสั้น ๆ กับคนที่คุณมักจะคิดว่าจะพูดว่า ‘สวัสดี’ กับเขา
- ส่งข้อความถึงเพื่อน ไม่สำคัญว่าจะพูดอะไร เพราะผู้คนมักยินดีเสมอเมื่อคุณให้ความสำคัญแก่พวกเขา
หรือหากใครมีเวลามากกว่า 1 ชั่วโมง ลองวิธีแบบนี้ดูสักหน่อยก็แล้วกัน
- ใช้เวลากับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัว
- เชิญใครบางคน (คนที่คุณมักจะไม่คิดว่าจะเชิญ) ให้มาร่วมกิจกรรมกับคุณและเพื่อนของคุณ เริ่มต้นกลุ่มแชทบนโลกออนไลน์กับคนที่คิดว่ามีอะไรเหมือน ๆ กัน
- ถามถึงช่วงเวลาวันหยุดที่ผ่านมาของเพื่อน ๆ เพื่อฟังเรื่องราวของพวกเขา
ถ้าหากมีเวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อวัน คุณยังมีอะไรให้ทำอีกเพียบ เช่น
- นัดกลุ่มเพื่อน ๆ ออกมาใช้ชีวิตร่วมกันในยามว่าง ไม่ว่าจะเดินช้อปปิ้ง ดูหนัง ท่องเที่ยวในเวลาสั้น ๆ ก็สร้างความสัมพันธ์ได้อย่างแน่นแฟ้น
- ใช้เวลาทำความรู้จักครอบครัวของคุณบ้าง ถามพวกเขาถึงเรื่องราวในอดีตที่น่าจดจำ
- ขยายเครือข่ายโซเชียล ด้วยการเข้าร่วมกลุ่มคนที่ชอบอะไรเหมือนกับคุณ
-
การมีความกระตือรือร้น
การมีความกระตือรือร้น
ออกไปเดินหรือวิ่ง ออกจากวัฏจักรเดิม ๆ สร้างกิจกรรมใหม่ ๆ ที่คุณชื่นชอบ ทั้งการเล่นเกม เดินเล่นที่สวน เต้นรำ การออกกำลังกาย และที่สำคัญเราต้องตั้งใจมองหาสิ่งที่ชอบอย่างแท้จริง รวมถึงวัดระดับความเหมาะสมในการเข้าถึงกิจกรรมเหล่านั้น เพื่อให้จิตใจเต็มอิ่มอย่างแท้จริงด้วย เริ่มง่าย ๆ เช่นเดิม ใช้เวลา 1 นาทีต่อวัน
- ลองค้นหาข้อมูลเล่น ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่คุณยังไม่รู้บน Google
- ใช้บันไดไม่ใช่ลิฟต์
หากมีเวลาว่างมากกว่า 1 ชั่วโมงขึ้น ลองสิ่งเหล่านี้ดูสิ
- ไปเดินเล่นตอนเที่ยง
- ใช้เวลาก่อนเข้างานกับเพื่อน ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินไปทำงานด้วยกัน หรือพักเที่ยงด้วยกัน
- ลงจากรถเร็วกว่าปกติหนึ่งป้าย เพื่อเดินไปทำงานในช่วงระยะทางที่เหลือ
แต่ถ้าวันไหนมีเวลาว่างนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ก็ยังมีกิจกรรมแนะนำน่าทำอีกมากมาย
- ใช้ประโยชน์จากส่วนลดออนไลน์โดยไปที่เว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น เว็บเรียนออนไลน์ที่มีอยู่มากมาย ค้นหาความรู้ใหม่ ๆ ในด้านที่คุณชื่นชอบ
- มองหาการเรียนออนไลน์แบบฟรี ๆ จาก Youtube ภายใต้กิจกรรมที่คุณต้องการ เช่น การเต้น การออกกำลังกาย ฯลฯ
-
การรับรู้เรื่องราว
สังเกตสิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างฤดูกาล ดื่มด่ำกับช่วงเวลาที่ผ่านไป ไม่ว่าจะเป็นช่วงการเดินไปทำงาน กินข้าวกลางวัน หรือร่วมพูดคุยกับเหล่าเพื่อนฝูง มองดูโลกรอบ ๆ ตัวคุณเพื่อสัมผัสถึงสิ่งล้ำค่ามากมาย เพราะบางครั้งความสุขมักอยู่ตรงหน้า แต่คุณกลับมองไม่เห็นมันอย่างน่าเสียดาย คุณไม่จำเป็นเลยที่ต้องรีบก้าวเดินเพื่อไปในอนาคต ลองสัมผัสกับปัจจุบันอย่างช้า ๆ อาจเห็นความสุขมากกว่าที่คุณคิด ในเวลาเพียง 1 นาทีต่อวัน..
- สังเกตความรู้สึกของคุณในขณะนี้ ดูความคิดของคุณและสัมผัสความรู้สึกในร่างกาย
- สังเกตความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานหรือการกระทำ
การมีเวลาว่าง 1 ชั่วโมง ก็ยังพอมีสิ่งดี ๆ รอให้คุณสัมผัส
- มองไปรอบ ๆ ตัวคุณ และรับสิ่งที่คุณเห็นทุกวัน สังเกต สังเกต สังเกตจริง ๆ
- ใช้เส้นทางอื่นในการเดินทางของคุณไปหรือกลับจากที่ทำงาน สังเกตสภาพแวดล้อมของคุณ
แล้วถ้ามีเวลาเหลือเฟือมากกว่า 1 ชั่วโมง ลองสิ่งเหล่านี้ดูละกัน
- การฝึกสมองโดยใช้สติ จะช่วยให้คุณจดจ่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณมากขึ้น จำไว้ว่า คุณไม่สังเกตว่าคุณไม่ได้สังเกตมากแค่ไหน จนกว่าคุณจะเริ่มสังเกตเห็นสิ่งที่คุณไม่ได้สังเกต!
-
หมั่นเรียนรู้
ลองค้นหาอะไรใหม่ ๆ อย่างเช่น สมัครเรียนคอร์สสั้น ๆ ที่คุณสนใจ ลองสัมผัสงานที่แตกต่างออกไปจากเดิม ซ่อมสิ่งของด้วยตัวเอง ฝึกเล่นเครื่องดนตรีที่เคยชอบ ทำอาหารที่อยากกิน ตั้งความท้าทายใหม่ ๆ ให้กับชีวิต สร้างความมั่นใจและความสนุกให้กับชีวิตมากขึ้น ด้วยเวลาเพียง 1 นาทีต่อวัน..
- ทำปริศนาอักษรไขว้หรือซูโดกุ
- ค้นคว้าสิ่งที่คุณเคยสงสัยมาตลอด
- เรียนรู้คำศัพท์ใหม่
พอเวลาว่างขยับเพิ่มขึ้นมาเป็น 1 ชั่วโมง ลองลิสต์รายการนี้
- ลงทะเบียนเรียน
- อ่านข่าวหรือหนังสือ
- ตั้งชมรมหนังสือ
สุดท้ายหากมีเวลาว่างสำหรับสิ่งนั้นมากเกิน 1 ชั่วโมง ปรับเปลี่ยน เพิ่มเติมอีกนิดก็แล้วกัน
- วิธีที่ดีที่สุดในการมีส่วนร่วมคือการอยู่ท่ามกลางผู้คนที่สนใจเรื่องเดียวกับคุณ
- เข้าร่วมชมรมหรือกลุ่มที่จะนำความสนใจของคุณมาสู่ชีวิต
- ค้นหา TED talks บน YouTube
-
การให้และช่วยเหลือผู้อื่น
ลองทำสิ่งดี ๆ ให้กับเพื่อนหรือคนแปลกหน้าดูบ้าง ลองขอบคุณใครสักคน ยิ้มให้ใครสักคน อาสาสมัครเวลาของตัวเองเพื่อเข้าร่วมกลุ่มชุมชน มองให้เห็นตัวเองที่มีความสุขเชื่อมโยงกับผู้คนในวงกว้างจนน่าเหลือเชื่อ อาจเริ่มต้นด้วยเวลาเพียง 1 นาทีต่อวัน
- เป็นมิตรกับคนงานในร้านค้า และถามพวกเขาว่าพวกเขาจะทำอะไรในช่วงสุดสัปดาห์
- หยุดช่วยคนที่หิ้วกระเป๋าขึ้นบันไดบ้าง
- เปิดประตูให้ใครบางคน
ระหว่างวันที่มีเวลามากขึ้นกว่า 1 ชั่วโมง ก็ทำสิ่งเหล่านี้แทน
- ทำงานบ้านให้กับครอบครัว
- แสดงความกตัญญูต่อบุคคลหนึ่งต่อสาธารณะ
และถ้าหากในแต่ละวันที่ช่วงเวลาว่างที่ยาวนาน ก็ยังมีสิ่งดี ๆ ให้คุณได้ทำอีกเพียบ
- ไม่ว่าจะเป็นการยื่นมือให้คู่ครอง การทุ่มเทของคุณอยู่เบื้องหลังเรื่องสำคัญหรือแค่สนับสนุนคนอื่นในทางใดทางหนึ่ง
- ลองช่วยเพื่อนที่กำลังตั้งใจทำอะไรสักอย่างจนสำเร็จ
- ไปร้านการกุศลและบริจาคสิ่งของที่คุณไม่ได้ใช้ คนอื่นสามารถนำความยุ่งเหยิงของคุณไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
เราได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพทางจิต รวมถึงเหล่าวิธีที่จะเข้ามาช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี มีความสุขอย่างแท้จริงในการมีชีวิตไปหมดแล้ว ต่อไปลองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของสุขภาพจิตกันบ้าง
ทำความเข้าใจการปลิดชีพ ด้วยการฆ่าตัวตาย
การปลิดชีพจากการฆ่าตัวตายนั้นแตกต่างกัน มีลักษณะเฉพาะมากกว่าการสูญเสียในรูปแบบอื่น แต่มีความซับซ้อน และสามารถคงอยู่ได้นานกว่า ซึ่งเราเข้าใจดีว่าผู้ที่เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายต้องการความช่วยเหลือในช่วงเวลาต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับพวกเขา We Mind & Kelly Matters ให้การสนับสนุนผู้คนในทุกช่วงของการสูญเสีย ตั้งแต่สองสามวันแรกหลังจากที่คุณสูญเสียหรือในระยะยาว – เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกต้องการที่จะเข้าถึงการสนับสนุน
เราสนับสนุนทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากการฆ่าตัวตายเช่น ครอบครัวและเพื่อนฝูง รวมถึงผู้ที่ฆ่าตัวตายด้วยเช่น เพื่อนบ้าน โรงเรียน วิทยาลัย กลุ่มสังคม และบุคลากรทางการแพทย์ We Mind & Kelly Matters – การสนับสนุนหลังการฆ่าตัวตายเสนอการสนับสนุนที่หลากหลายจากโทรศัพท์ การสนับสนุนออนไลน์ และตัวต่อตัว
เรารู้ว่าเมื่อมีคนเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย คลื่นของบาดแผลจะไปกระทบกระเทือนผู้คนจำนวนมาก แน่นอนว่าครอบครัว เพื่อนฝูง เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงานและผู้เชี่ยวชาญด้วย ผู้คนพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในช่วงคลื่นลูกแรก มีการตัดสินใจขององค์กรที่ต้องทำในช่วงเวลาที่อาการด้านชา เริ่มไร้ความรู้สึกและอารมณ์รุนแรงครอบงำ เราพร้อมให้ความช่วยเหลือในทันที
คำแนะนำสำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการฆ่าตัวตายแบบเบื้องต้น มีทั้งหมด 3 แบบด้วยกันดังนั้น
- การเริ่มต้นติดต่อขอความช่วยเหลือครั้งแรก : ติดต่อทันทีที่พร้อม เราจะประเมินความต้องการของคุณและช่วยวางแผนทางเพื่ออนาคต
- การสนับสนุนเพื่อน : ไม่ว่าจำเป็นคำแนะนำในเชิงปฏิบัติ การสนับสนุนอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงการแนะแนวทาง
- การให้คำปรึกษา : การเลือกรับคำปรึกษาฟรีจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตที่คุณเข้าถึงได้ตลอดเวลา
เพื่อป้องกันการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ขอให้ทุกคนติดตามผู้ที่เข้ากลุ่มเสี่ยงมีโอกาสฆ่าตัวตาย ด้วยการให้ความช่วยเหลือพวกเขาในแบบเบื้องต้นตามคำแนะนำทั้งหมดของเรา อยู่เคียงข้างพวกเขาตั้งแต่ในวันที่รู้สึกแย่ ตลอดจนเป็นหนึ่งในส่วนร่วมให้พวกเขาได้มีโอกาส ค้นพบความสุขของตัวเอง และสามารถดำเนินชีวิตต่อไปในสังคมได้อย่างปกติสุข ทุกคนไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ยังมีเพื่อนร่วมโลกอีกมากมายที่ต้องการรู้จัก และมอบความสุขให้คุณอย่างจริงจังตลอดเวลาที่เหลือนับต่อจากนี้ไป